สวัสดีครับ คุณเลมอนทรี
การนั่งสมาธินั้น ไม่ทราบว่านั่งแล้วเป็นอย่างไรบ้างเพราะว่าการทำสมาธิ มันจะมีคุณภาพของมันอยู่
ถ้าหากนั่งแล้วจิตใจไม่เป็นสมาธิ คิดฟุ้งซ่าน ก็เรียกว่าคุณภาพยังไม่ค่อยดี แต่อาจารย์ศุภกิจท่านบอกว่า
เคล็ดลับการนั่งสมาธิ มีดังนี้
นั่งตัวนิ่งตรง - หลับตา ฝึกตอนแรกอย่ากระดุกกระดิก สักวันละ ๓๐ นาที เราก็เป็นคนเก่งแล้ว เพราะเกิดจากท้องพ่อท้องแม่กระดุกกระดิกตลอดเวลา และต่อมานั่งใหม่ทำตัวให้นิ่งๆ หลับตาทำใจให้สบาย ไม่กด-ข่มใจ ตอนแรกจะนึกไปทั่ว พระโขนง สีลม สามย่าน สะพานควาย สนามหลวง และก็ดึงกลับมาภาวนาใหม่อย่าคิดว่าไม่ได้ผล อย่าน้อยใจ อย่าคิดว่าบุญน้อยนั่งไม่ได้ ใจไม่สงบ
จริงๆ เราทำถูกแล้ว นั่งสมาธิใหม่ๆ ใจและกายยังไม่ถูกฝึกก็จะฟุ้งซ่าน เป็นอย่างนี้ทุกคน แม้แต่เกจิครูบาอาจารย์ก็เป็น อดทนเอา ผมจะให้ข้อคิด เวลานั่งสมาธิใหม่ๆ ถึงแม้ใจจะไม่สงบก็ช่างมัน เราพยายามแล้ว เราก็ได้บุญ เพราะเรายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์จะได้นั่งสมาธิปุ๊บ แล้วจะนิ่งปั๊บเลย เราเพิ่งหัดนั่งสมาธิ พอนาฬิกาปลุกได้เวลา ๓๐นาที เราลืมตาขึ้นก็ได้บุญได้ความเพียร ได้สัจจะบารมี
เพราะ ๓๐ นาทีที่ตั้งใจ นาฬิกาบอกเวลา เราอดทนได้ตามเกณฑ์ เราก็ได้บุญ คือ"สัจจะ" ต่อไปฝึกมากๆ ก็ใจเย็นสงบลง และร่างกายก็ชินไปเอง นั่งปฏิบัติธรรมทุกวัน จะได้ทุกวัน ในการหาเทคนิคของแต่ละคน ให้ปรับเปลี่ยนจนร่างกายและจิตใจเป็นหนึ่งเดียว สมดุลกัน
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิของคน ๓ วัย มีดังนี้
๑. เด็ก จะเรียนหนังสือเก่ง จำง่ายลืมยาก ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ความจำดี เรียนหนังสือได้ปริญญา ตรีโท และเอก สมใจนึก และพ่อแม่หาเงินมาส่งเรียนสูงๆ ได้สบาย เด็กบางคนเรียนเก่งแต่พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเสียก็มากมาย หรือลูกท่านมหาเศรษฐีเรียนไม่จบก็มาก ทั้งๆ ที่มีเงินเยอะ เขาเรียกว่า "บุญมี - แต่บารมีไม่ถึง"
๒. ผู้ใหญ่ ในวัยทำมาหากิน นั่งสมาธิจะได้ เมตตา มหานิยม คงกระพัน ค้าขายเงินทองไหลมานี่คือการปลุกเสกตัวเราเอง จริง ๆ แล้วเป็นวิชาของพระพุทธองค์ มีมา ๒๕๕๐ กว่าปี แต่ชาวพุทธเราติดนิสัย"เอาเงินซื้อบุญ" ไม่ยอมปฏิบัติบุญ เพราะไม่รู้ว่าการนั่งสมาธิ คือ การปลุกเสกชีวิตของเราให้มีสติเจริญรุ่งเรืองการนั่งสมาธิจะมีพลังควบคุมร่างกาย มีแสงรอบ ๆ ตัว ภาษาพระป่าก็คือ เสน่ห์ เมตตา มหานิยม ฯลฯ แต่คงแสงได้คุมตัววันต่อวัน ต้องนั่งสมาธิทุกวันถึงจะดี (ภาษาวิทยาศาสตร์ เรียกว่า แสงออร่า / รังสีเหนือม่วง)
๓. คนชรา นั่งสมาธิจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะมีสารเอ็นโดฟิน หลั่งเมื่อกายสงบจิตเป็นสมาธิ จะทำให้อายุยืน ถ้าทำได้ "อยู่ก็สบาย - ตายก็สุข"
สุดท้ายผมมีตัวอย่างก่อนจบ จะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ในเมืองไทยนี้มีคนนั่งวิปัสสนากรรมฐานเก่งมากยกตัวอย่างเช่น
๑. หลวงพ่อคูณ เคาะหัวอย่างเดียว มีเงินพัฒนาวัดและการศึกษามากมาย
๒. หลวงพ่อเปิ่น สร้างโบสถ์ ศาลา วิหาร โรงพยาบาล
๓. หลวงพ่ออุตมะ เมืองกาญจนบุรี โบสถ์ก็ใหญ่ เงินก็เยอะ อายุก็ยืน ๙๔ ปี เพิ่งสิ้นบุญเมื่อ ๒๕๔๙
หลวงพ่อ ๓ องค์ ที่ยกตัวอย่าง ท่านไม่เคยนำลูกนิมิตใส่ท้ายรถมาเรี่ยไรที่กรุงเทพฯ เลยจริงๆ แล้วจริงๆ แล้วหลวงพ่อทั้ง ๓ องค์ กลางคืนท่านปฏิบัติธรรม กลางวันท่านก็รับแขก ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรของท่าน พอปฏิบัติธรรมมาก ๆ ก็มีประชาชนแห่มาหาท่าน มาขอความช่วยเหลือ มีคนมากราบท่านยังเอาสตางค์ให้ท่านด้วยเงินเยอะมากบนศาลาวัด ได้จากไหน ได้จากการนั่งสมาธิ หลวงพ่อ ๓ องค์เป็นใคร ?จริงๆ แล้วท่านก็เป็นคนธรรมดา ถ้าเรามีความอดทนเราก็เป็นเหมือนท่าน ดังนั้น ไปไหว้พระดังไม่ได้ดังเหมือนพระ แต่ถ้าปฏิบัติเหมือนพระดัง เราก็จะดังเหมือนพระ